..Communication Design 4..

Project 3...

------------------------------------------------------

FINAL PROJECT ...

symbol of BTS and MRT for Shopcaholic



No further symbols for the rest of the stations


2Bangkok.com contacted MRTA to ask about the lack of subways symbols north of the Thai Cultural Station. Their Public Relations department said it was because from Hua Lamphong to Thai Cultural Center there were "special or important places" to base the symbols on, but there are "no special or important places from Huay Kwang to Bang Sue."
We asked if the reason really was that two different contractors worked on the line and the one that worked on the northern section did not participate in the symbol project. MRTA's reply: "something like that."We finally asked if there were any plans to create further symbols for the rest of the stations. The answer: "No. Construction is finished." It is not surprising no further emphasis is being put on the symbols. The existing symbols were poorly received and are not being used at all in signage or maps.

Subway Station symbols revealed

Wisarut reports : MRTA has designated 9 symbols as logos for the subway stations.

1) Hua Lamphong - Red Hua Lamphong Railway Station (Bangkok Central Station) used red symbol due to the fact that it is a commercial section in city area. (ตัดทอนจากหัวลำโพง)

2) Sam Yan - Pink roof modeled from Chaulalongkorn University Auditorium. Pink is a color for Chualongkorn university - the color of Tuesday which is the day King Chulalongkorn was born (on Tuesday September 20, 1853). However, due to the high density nearby, red will be substituted for pink color. (ตัดทอนจากจุฬาลงกรณ์)

3) Silom - a blue statue of King Vajiravut in front of Lumphinee Park - Blue signaling an interchange with the Skytrain station at Saladaeng. (ตัดทอนจากรูปปั้นรัชกาลที 6 หน้าสวนลุมพินี)

4) Lumphinee - Green lotus since this station is close to Lumphinee Park. (ตัดทอนจากดอกบัวแสงถึงสวนลุมพินี)

5) Klong Toei - Orange Thai-style roof from Tamnak Plai Noen. Orange sign is for the area with moderate population density. (ตัดทอนจากหลังคาพระตำหนักปลายเนิน)

6) Queen Sirikit - a yellow symbol of Queen Sirikit National Convention Center - Yellow is a symbol of Thai Royalty. (สถานีศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์)

7) Sukhumvit - a blue Lanna-style roof from Ruen Khamthiang at the Siam Society not far from the station. Blue is for an interchange with the Skytrain ( ตัดทอนจากจั่วของสยามสมาคม)


8) Phetburi - Cyan (or azure) canal with waves - a symbol of Saen Saeb canal which is not far from the station.(ตัดทอนจากคลองแสนแสบที่อยู่ใกล้สถานี)

9) Rama IX - a red Thai number "9" since this is a commercial area. .( ตัดทอนจากเลขเก้าไทย)


The other 9 logos (for Thai Cultural Center to Bang Sue) will we revealed at a later date.It can be assumed that:
1) Blue is for interchange (Chatuchak Park)
2) Red is for commercial areas (Kamphaengphet, Phaholyothin)
3) Green for parks (Thai cultural center)
4) Orange for areas of moderate density (Suthisarn, Ratchada, Lad Phrao, and probably Bangsue)
5) Yellow for the Royal family (Thai cultural center)
6) Cyan (or azure) is for waterways (probably Bangsue)

It would be nice if BTSC came up with symbols for the Skytrain stations (e.g. Victory Monument with the obelisk-shape monument with orange color, National Stadium with a blue Stadium, Saladaeng with violet Dusit Thanee Hotel green tree with symbol of Queen Sirikit for Phrom Phong station, and red Sra Pathum Palace or so). [This may not be possible since cabinet decisions determine that both existing Skytrain lines are green lines. BTS has tried and failed to get permission to designate different colors for the two lines.]Already there is grumbling that the nine symbols for subway stations are not well designed or compelling.
----------------------------------------------------------------------------------
symbol of BTS and MRT for Shopcaholic....


concept : ออกแบบ symbols สำหรับ รถไฟฟ้าและรถไฟฟ้าใต้ดิน เพื่อกลุ่มคนเฉพาะกลุ่ม โดยกลุ่มที่เลือกมาคือกลุ่มคนที่มีความสนในเกี่ยวกับเรื่อง shopping จาก concept นี้ ได้นำ ยี่ห้อสินค้าต่างๆที่รู้จักกันทั่วไปในหมู่คนที่ชอบเดินเที่ยว มาล้อเลียน ขึ้นมาเป็น symbols ของสถานีต่างๆ ขึ้นทั้งหมด 40 สถานีด้วยกัน ดังภาพเป็นตัวอย่างที่หยิบยกมาให้ดู โดยคำนึกถึงความคล้ายระหว่าง แต่ละสถานีกับตัวยี่ห้อสินค้า เพื่อให้เห็นแล้วได้นึกถึง สินค้านั้นๆ


Image Hosted by ImageShack.us


---------------------------------------------------------

Project 2 ...

---------------------------------------------------------

...สีสันกับความเก่าใหม่....


ตั้งคำถามว่าด้วยเรื่อง "ความเก่าใหม่ เมื่อมาผสมกันจะอยู่ด้วยกันได้ไม๊???"
- ช่วงที่หนึ่ง... โดยส่วนแรก เป็นการนำสีของดอกไม้ที่แสดงถึงความเหี่ยวเฉา ร่วงโรย มาใส่ลงในดอกไม้ที่มีลักษณะสดใหม่ และส่วนอีกแบบ คือการนำสีสดใหม่ของดอกไม้ มาใส่ลงบนดอกไม้ที่เหี่ยวแห้ง ...
- ช่วงที่สอง... นำเอาทั้ง สองแบบมารวามเข้าด้วยกันโดยที่นำ สีทั้ง 2 ชนิด มาใส่ลงในดอกไม้สด ..อีกแบบนำใส่ลงในดอกไม้เหี่ยว เกิดเป็นผลดังภาพ
- ช่วงที่สาม... มาสรุปที่การทดลองแบบสไตล์ andy warhol ซึ่งเป็นศิลปะร่วมสมัย รวมเอาความเก่าและใหม่ ให้อยู่ร่วมกันได้ ดังภาพ...

Image Hosted by ImageShack.us
andy warhol...

Project 1 ...

-------------------------------------------------------------------------------------

Josef Muller Brockmann : The Swiss Pioneer

Image Hosted by ImageShack.us


ประวัติ และผลงาน...


ประวัติเกิดที่สวิสแลนด์เมื่อปี 1914 ในช่วงปี 1930s สวิสเซอร์แลนด์เป็นผู้นำในการออกแบบ โดยนิยมใช้ภาพถ่ายซึ่ง เป็นที่รู้จักไม่นานหลังยุค 1920s จึงทำให้ Swiss Graphic Style รุ่งเรืองมากใน Basle และ Zurich โดย Brockmann เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Zurich Group ร่วมกับ Camille Graeser,Rishard Paul Lehse และ Hans NeubergThe International Typographic Style- ตันกำเนิดจาก constructive from Swiss ( บางส่วนของ German ) โดยมีอิทธิพลยาวนาน จนถึงปี 1990 โดยเป็นการเติบโตบนรากฐานของ Bauhaus’ Modernism-Constructivism และ De Stijl มี Krnst Keller เป็นคนบุกเบิกงานแนวนี้ ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2

- งานจะเน้นตัวอักษร ทั้ง Headline Subheadline และ text มักใช้อักษร san serif ซึ่งฟอนท์ที่นิยมคือ Nue Hass Grotesk ต่อมาได้พัฒนาเป็น Helvetica

- ใช้ grid เป็นพื้นฐานคำนวณทางคณิตศาสตร์ในการจัดองค์ประกอบ

- Max Bill เคยเรียนที่ Bauhaus ต่อมาไปเรียน swiss งานจะมีการคำนวณ โดยสนใจงานด้าน graphic มีกฎ semiotics คือ

§ Semantic ศึกษาความหมายของ sign & symbol

§ Syntactic ศึกษาความสัมพันธ์ sign & symbol ที่ต่อเนื่องกันในภาพรวม

§ Pragmatic ศึกษาความสัมพันธ์ sign & symbol ของผู้ใช้

- งานจะเน้น positive / negative space งานจะจัดกระดาษไปด้านซ้าย งานจะดูเรียบง่าย

- Hermann Zapf เป็นชาวเยอรมันที่ให้กำเนิด font palatino โดยพัฒนามาจาก roman style

- Armin Hofmann ผสมความรู้ความเข้าใจ ในเรื่อง form+romantic style โดยจะใช้ เส้น จุด เป็นองค์ประกอบสำคัญ

- Josef Muller Brockman มีอิทธิพลต่อนักออกแบบจนปัจจุบันโดยเฉพาะในยุโรป ทางฮอลแลนด์ เยอรมัน และสวิสแลนด์

1. เน้นประโยชน์ใช้สอย ชัดเจน อ่านง่าย

2. มีการใช้โครงสร้างของ grid

3. เน้นความสมดุล

4. ใช้ photo copy มาทำให้เกิด typography แบบใหม่ๆ

5. มีการใช้ high contrastมีการใช้ semiotics

---------------------------------------------------------

Grid System & Semiotics


การจัดองค์ประกอบแบบ golden mean - Composition การจัดองค์ประกอบยอดฮิตวิธีหนึ่งที่ตำราทั้งหลายแนะนำ ก็คือ การใช้จุดตัดเก้าช่อง (rule of third) ก็คือ การแบ่งภาพออกเป็น 3 ส่วน ทั้งแนวตั้งและแนวนอน แล้ววางภาพตรงจุดตัดนั้นจริงๆ ก็คือ จะเป็นวางภาพในสัดส่วนสองจากสาม (2:3) จริง ๆ แล้ว rule of third นั้นก็เอามาจาก golden mean นั่นเองgolden mean คือ สัดส่วน (ratio) 1:1.6180339.. (ซึ่งเป็นตัวเลขมหัศจรรย์ ที่ถูกค้นพบมาตั้งแต่สมัยก่อน)และทุกวันนี้ถูกใช้ในทุก ๆ สิ่งรอบตัวเราโดยที่เราอาจไม่รู้ตัว เป็นอะไรที่สมองของมนุษย์ตอบสนองดีเป็นพิเศษ อย่างเช่น มีการทดลองพบว่า รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่คนชอบมากที่สุดเป็นสัดส่วน 1:1.618

1.618 มาจากไหน? จากอนุกรม Fibonacci ( S[n] = S[n-1] + S[n-2] )0,1,1,2,3,5,8,13,21,34,55,89,...เอา 3/2 = 1.55/3 = 1.667..55/34 = 1.617689/55 = 1.6182จากนั้น ค่าจะลู่เข้า ค่า ๆ หนึ่ง เรียกว่า Phi = 1.6180339... (เป็นอีกค่าคงที่ เหมือนค่า Pi และ e ที่เรารู้จัก)จะเห็นว่า 3:2 ก็อยู่ในอนุกรม Fibonacci เหมือนกันพอรู้จักค่า Phi แล้ว.. มาลองแบ่งตารางกันบ้างดีกว่า..จากรูป ขนาดสี่เหลี่ยมสีน้ำเงิน จะมีขนาดเท่ากับ 1:1.618 ของสี่เหลี่ยมใหญ่

Golden Section VS Rule of Thirdลองเทียบ 1.618:1 กับ 3:2 ใช้หลักการแบ่งเป็นสัดส่วนสี่เหลี่ยมคล้ายก็จะเป็นการเปลี่ยน

golden section เป็น rule of thirdGolden Spiral โดยแบ่งภาพทีละ 1:1.618 ของด้านยาว แล้วลากจุดตัด เป็นเส้นโค้งมาเป็น Golden Triangle แบ่งเป็นสามเหลี่ยมคล้ายเท่าๆ กัน 3 อัน(สี่เหลี่ยมเป็น 3:2 ก็ใช้ Golden Triangle แบบ 3:2 ก็ถือว่าใกล้เคียง)

--------------------------------------------------------

SEMIOTIC...

---------------------------------------------------

...link...

ประวัติ และผลงาน...

http://www.google.co.th/
http://www.filterfine.com/resources/jmb/bio.htm
http://www.artandculture.com/cgi-bin/WebObjects/ACLive.woa/wa/artist?id=188
http://www.imagenow.ie/gallery/flash.htm
http://www.internationalposter.com/adetail.cfm?ArtistNumber=450


สัมภาษณ์...

http://www.eyemagazine.com/feature.php?id=51&fid=163


ประวัติศาสตร์ศิลป์...

http://witcombe.sbc.edu/ARTH20thcentury.html#Later20century
http://www.artlex.com/
http://www.internationalposter.com/IntTypoStyle_Text.htm


SEMIOTIC...

http://www.code.uni-wuppertal.de/uk/computational_design/who/nadin/publications/articles_in_books/Design%20and%20Semiotics.htm
http://www.boxesandarrows.com/view/semiotics_a_primer_for_designers
http://www.markboulton.co.uk/journal/comments/icons_symbols_and_a_semiotic_web
http://www.markboulton.co.uk/journal/comments/some_thoughts_about_signs